ชักชวนสหายสิริวัฑฒ์ให้ปรารถนาเป็นพระอัครสาวกด้วย
สรทดาบสคิดถึงสิริวัฑฒ์กุฎุมพีผู้เป็นสหาย ต้องการให้เพื่อนปรารถนาเป็นพระอัครสาวกคนที่สอง จึงไปหาสิริวัฑฒ์ที่เรือนของเขา
สิริวัฑฒ์เห็นดาบสแล้วกล่าวทักทายว่า…
“นานแล้วที่พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้มานั่งที่นี้”
เชื้อเชิญให้ดาบสนั่งบนที่สูง ตนเองนั่งบนที่ต่ำ แล้วถามถึงพวกศิษย์ ดาบสจึงเล่าเรื่องที่ได้พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ฟังธรรม พวกศิษย์ทั้งหมดบรรลุพระอรหัตและขอบวชเป็นภิกษุทั้งหมด ส่วนตนเองไม่ได้บรรลุ แต่ได้ตั้งจิตปรารถนาเป็นพระอัครสาวก และได้รับพยากรณ์ว่าจะสำเร็จในสมัยพระพุทธเจ้าโคตมะ เล่าจบแล้วก็ขอให้สิริวัฑฒ์ปรารถนาเป็นพระอัครสาวกคนที่สอง (ฝ่ายซ้าย)
สิริวัฑฒ์กล่าวว่า…
“ตนเองไม่มีความคุ้นเคยกับพระพุทธเจ้าเลย”
ดาบสบอกว่า…
“ขอให้เป็นภาระนิมนต์ของตน ขอให้เพื่อนจัดเตรียมสถานที่และทานไว้ให้พร้อม”
สิริวัฑฒ์สั่งการให้คนงานจัดเตรียมสถานที่ให้สะอาด เรียบดี ไม่มีฝุ่น สร้างปะรำมุงด้วยดอกบัวขาบ จัดตั้งที่นั่งที่ประทับ จัดปรุงอาหารอันควรเคี้ยวควรฉันไว้ แล้วบอกความพร้อมแก่สรทดาบ สรทดาบสจึงไปกราบทูลนิมนต์พระพุทธเจ้าอโนมทัสสีและภิกษุสงฆ์ เสด็จมายังเรือน สิริวัฑฒ์รับเสด็จ รับบาตรจากพระหัตถ์ กราบนิมนต์เข้าไปในปะรำ ถวายน้ำทักษิโณทกแด่ภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข แล้วถวายโภชนะประณีต เสวยเสร็จแล้วถวายผ้า
แล้วกราบทูลถามว่า…
“ขอให้พระองค์ เสด็จอนุเคราะห์ตลอด 7 วัน เพราะตนมิได้ทำเพื่อปรารถนาฐานะเล็กน้อย”
พระพุทธเจ้าทรงรับนิมนต์แล้ว สิริวัฑฒ์ได้ถวายทานอยู่ 7 วัน ในวันที่ 7 สิริวัฑฒ์เข้าถวายบังคมแล้ว ยืนประนมมือ
แล้วกราบทูลว่า…
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สรทดาบสผู้เป็นสหายของข้าพระองค์ ปรารถนาเป็นพระอัครสาวกที่หนึ่งของพระศาสดาพระองค์ใด ข้าพระองค์ก็ขอเป็นพระอัครสาวกที่สองของพระศาสดาพระองค์นั้นด้วยเหมือนกัน”
พระพุทธเจ้าทรงตรวจดูด้วยอนาคตังสญาณ ทรงเห็นว่าความปรารถนาของเขาจักสำเร็จ
พระพุทธเจ้าจึงทรงพยากรณ์ว่า…
“ความปรารถนาของท่านจะสำเร็จในสมัยพระพุทธเจ้าโคตมะ”
แล้วทรงอนุโมทนาทานของเขาแล้วเสด็จกลับ นับตั้งแต่วันนั้น สิริวัฑฒ์ก็กระทำกรรมดีงามทั้งหลายตลอดชีวิต ดายแล้วเกิดในสวรรค์ชั้นกามาวจร ส่วนสรทดาบสตายแล้วเกิดในพรหมโลก
เครดิตบทความต้นฉบับ : หนังสือ ๘๐ พระอรหันต์ ฉบับสมบูรณ์ หน้า 124 จัดพิมพ์โดยธรรมสภา